กรณีน้ำท่วมนั้นเรียกได้ว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ  จะจัดให้อยู่ในความคุ้มครองประเภทภัยธรรมชาติ ซึ่งประเภทประกันภัยที่ครอบคลุมภัยธรรมชาตินั้น ได้แก่ ประกันชั้น 1 แต่ไม่ใช่แค่เพียงประกันชั้น 1 เท่านั้น ที่จะคุ้มครองภัยประเภทนี้ ยังมีประกันภัยประเภทอื่นที่จัดทำแพ็กเกจพิเศษขึ้นมา เพื่อครอบคลุมภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะ น้ำท่วมรถยนต์ ได้แก่ ประกันชั้น 2+ และ 3+ 

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะคุ้มครองทุกกรณี  แล้วเหตุการณ์ไหนละที่ประกันจะไม่จ่าย? 

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แม้ว่าเป็นประกันชั้น 1ก็ไม่ได้คุ้มครองทุกกรณี โดย ในส่วนของความคุ้มครองน้ำท่วมก็เช่นเดียวกัน ซึ่งกรณีน้ำท่วมรถที่ประกันไม่คุ้มครองนั้น จะได้แก่ น้ำท่วมรถยนต์ที่เกิดจากความประมาทของเจ้าของรถยนต์เอง เช่น การที่ขับรถไปบริเวณที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นพื้นที่อันตราย หรือการที่ขับรถลุยน้ำที่ขังสูง เป็นต้น นอกจากนี้ หากรถยนต์เกิดประสบภัยน้ำท่วมนอกเหนืออาณาเขตความคุ้มครอง ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีที่บริษัทประกันภัยจะไม่ให้ความคุ้มครองแก่รถยนต์ของคุณ เนื่องจากรถยนต์ประสบเหตุนอกประเทศไทยซึ่งถือเป็นอาณาเขตที่ให้ความคุ้มครองนั่นเอง

แล้วแบบนี้ความคุ้มครองประเภทภัยธรรมชาติ คุ้มครองอะไรบ้างนอกจากน้ำท่วม?

1.ไฟไหม้

ไม่ว่าจะเป็นเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากไฟป่าลุกลามมาไหม้รถยนต์ของเรา อาจทำให้รถระเบิดได้จะเกิดความเสียหายและไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเท่ากับเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อทำ ประกันไฟไหม้รถ จะช่วยคุ้มครองรถของเราและค่าเสียหายที่เกิดขึ้น 

2.แผ่นดินไหว

แม้ว่าแผ่นดินไหวจะไม่ได้มีโอกาสเกิดขึ้นสูงมากในประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกันเราก็ประมาทไม่ได้ จะเห็นได้ตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์เป็นระยะเรื่องแผ่นดินไหวบริเวณภาคเหนือของไทย ดังนั้นหากเราทำประกันที่มีความคุ้มครองประเภทภัยธรรมชาติ เอาไว้ละก็ไม่ต้องห่วงเลยว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะเกิดความสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว นอกจากนี้ภัยธรรมชาติที่เป็นผลต่อเนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างซึนามิหรือเหตุการณ์เขื่อนแตก ทำให้รถยนต์ของคุณเกิดความเสียหายอย่างหนัก ก็นับรวมอยู่ในความคุ้มครองส่วนนี้ด้วยเช่นกัน 

3.ลูกเห็บ 
ในแถบภาคเหนือของประเทศไทย มักจะได้เจอกับภัยลูกเห็บอยู่แทบทุกปี ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่อาจจะดูไม่อันตรายมาก แต่เอาเข้าจริงก็อันตรายไม่น้อย เพราะหากลูกเห็บตกระหว่างที่คุณกำลังขับรถอยู่ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตามมาทั้งรถและทรัพย์สิน

4. อุกาบาตหรือกระสวยอวกาศตกใส่

อยู่ใต้ฟ้าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้จะมีโอกาสน้อยมาก ที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลยแล้วถ้ารถของคุณราคาหลักแสนหลักล้าน แล้ววันหนึ่งอุกกาบาตตกลงมาใส่จริงๆ คุณจะเลือกเสียเงินทำประกันภัยรถยนต์หลักพัน หรือจะซื้อรถใหม่หลักล้าน เรื่องแบบนี้กันไว้ดีกว่าแก้

หากคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงภัยธรรมชาติที่กล่าวมาข้างต้น เราขอแนะนำให้คุณควรทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้จะอุ่นใจกว่า เพราะว่าความคุ้มครองภัยธรรมชาติในประกันชั้น 1 นั้น ครอบคลุมภัยธรรมชาติที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ในขณะที่บางแพ็กเกจของประกันชั้น 2+ และ 3+ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีนั้นขึ้นอยู่ตามแต่ข้อกำหนดของแต่ละบริษัทซึ่งตัวแทน Fairdee สามารถช่วยคุณจัดประกันแบบที่เหมาะสมสำหรับคุณ ด้วยประสบการณ์ตรงจากตัวแทนที่มีคุณภาพ และความร่วมมือจากบริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำถึง 5 บริษัท 

ความเสี่ยงมีอยู่ทุกวัน อย่ารอช้า มาร่วมรับประสบการณ์ดีๆ กับตัวแทน Fairdee กันเลย!!