นั่งท้ายกระบะ ประกัน

จากกรณีรถกระบะคว่ำ ทำให้เกิดประเด็นถกเถียงในสังคมมากมายเกิดขึ้น จะเห็นว่าประกันจะต้องมีส่วนเข้ามารับผิดชอบในกรณีดังกล่าว แล้วกรณีแบบนี้ ประกันจะจ่ายยังไง หรือผู้ตายจะได้ประกันจากทางไหนบ้าง

Fairdeeได้รวบรวมข้อมูลคร่าวๆในกรณีต่างๆมาเพื่อเป็นความรู้และให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประกันภัยรถยนต์ กับทุกคนด้วย

ก่อนอื่นต้องแยกกันก่อนว่า ประกันภัยรถยนต์ มีสองประเภท ทั้งประกัน ภาคสม้ครใจและภาคบังคับ

ประกันภาคสมัครใจทางประกันจะจ่ายค่าเสียหายให้ หากตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการแจ้งข้อหากรณีเมาแล้วขับ และหากปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ตรวจพบจากผู้ขับขี่เกินกว่าที่กำหนดไว้

ถึงแม้จะทำประกันชั้น 1 ทางประกันก็ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียหายต่อผู้ทำประกันหรือคู่กรณี เข้าใจง่ายๆ คือหากแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์นั่นถือว่า “เมา” แล้วนั่นเอง

แน่นอนว่าการนั่งท้ายกระบะเป็นความผิดทางกฎหมายห้ามนั่ง CAB และท้ายกระบะนั้น ว่ากันว่ามีอยู่แล้วตามข้อบังคับของพระราชบัญญัติ (พรบ.) รถยนต์ พศ. 2522 และ พรบ. จราจรทางบก พศ. 2522 โดยมาตรา 21 ได้พูดถึงการห้ามใช้รถที่ไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ โดยระบุว่า ห้ามใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักรถไม่เกิน 1,600 กก. เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน หรือใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ถ้าแปลเป็นภาษาบ้านๆเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ต้องใช้รถยนต์ให้ตรงตามที่ได้จดไว้ในทะเบียน เช่น ถ้าใครจดทะเบียนรถกระบะเป็นรถบรรทุก (ป้ายสีเขียว) จะเอามาบรรทุกคนไม่ได้ และถ้าใครจดทะเบียนรถกระบะเป็นรถยนต์นั่งเกิน 7 คน (ป้ายสีน้ำเงิน) โดยที่ทำการต่อเติมหลังคาและมีที่นั่งชัดเจน จะนำมาใช้บรรทุกสิ่งของไม่ได้ เช่นนี้แล้วจึงหมายความว่าในกรณีอุบัตติเหตุดังกล่าว ประกันจะไม่ออกค่าเสียหายให้เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่ขัดต่อข้อกฎหมาย

แต่หากเหตุไม่ได้เกิดจากการเมาหรือผิดตามข้อกฎหมาย ประกันจะทำการจ่ายและรับผิดชอบค่าเสียหายตามสัญญาประกันที่ได้ตกลงทำไว้

ประกันรถชั้น 1

ความคุ้มครองแรกที่ครอบคลุมทุกความต้องการเรียกได้ว่าครอบจักรวาลเลย

  • คุ้มครองทรัพย์สินและบุคคลภายนอก(คนที่เราไปประสบเหตุด้วย)
  • ครอบคลุมตัวรถที่เอาประกันภัย(รถของเรา) ทั้งสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม การชน และ
  • ยังครอบคุมภัยพิเศษต่างๆ (ทั้งอุบัติเหตุส่วนบุคคลของตัวเราเอง ค่ารักษาพยาบาลตัวเรา ประกันตัวให้เรากรณีที่เป็นคดีอาญา และภัยจากการก่อการร้าย)

ประกันรถชั้น 2+

คุ้มครองเหมือนประกันชั้น 1 ทุกประการ ยกเว้นอุบัติเหตุจากการชนที่ต้องเป็นจากยานพาหนะทางบกหรือรถที่มีทะเบียน(รถชนรถ)เท่านั้น ที่น่าสนใจกว่านั้นยังสามารถเลือกความคุ้มครองเฉพาะที่เราต้องการได้ เพื่อเป็นการลดค่าเบี้ยประกันได้อีกด้วยนะ

  • คุ้มครองทรัพย์สินและบุคคลภายนอก(คนที่เราไปประสบเหตุด้วย)
  • ครอบคลุมตัวรถที่เอาประกันภัย(รถของเรา) ทั้งสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม การชนที่เกิดจากยานพาหนะทางบกเท่านั้น
  • ครอบคลุมภัยพิเศษต่างๆ (ทั้งอุบัติเหตุส่วนบุคคลของตัวเราเอง ค่ารักษาพยาบาลตัวเรา ประกันตัวให้เรากรณีที่เป็นคดีอาญา และภัยจากการก่อการร้าย)

ประกันชั้น 3+

เน้นความคุ้มค่าของการทำประกันรถ ที่นอกจากดูแลความเสียหายทั้งรถเราและรถของคู่กรณีแล้ว ยังสามารถเลือกความต้องการอื่นๆ ที่เราต้องการเพิ่มได้อีกด้วย

  • คุ้มครองทรัพย์สินและบุคคลภายนอก(คนที่เราไปประสบเหตุด้วย)
  • ครอบคลุมตัวรถที่เอาประกันภัย(รถของเรา) เฉพาะการชน และน้ำท่วม
  • ครอบคุมภัยพิเศษต่างๆ (ทั้งอุบัติเหตุส่วนบุคคลของตัวเราเอง ค่ารักษาพยาบาลตัวเรา และประกันตัวให้เรากรณีที่เป็นคดีอาญา)

ส่วนวงเงินในการคุ้มครองนั้น ปกติแล้วตามทุนประกันที่เราเลือกเลย

แต่ประกันภาคบังคับ หรือที่เราารู้จักกันว่า พรบ นั้น จะจ่ายให้! ไม่ว่าคุณจะเมา ไม่มีใบขับขี่ หรือทำผิดกฎหมายจราจรข้อใด พ.ร.บ.ก็จ่ายค่าเสียหายชดเชยให้หมดเมื่อเกิดเหตุ  พ.ร.บ. จะจ่ายให้กับคู่กรณี และจ่ายแค่ความเสียหายต่อบุคคลเท่านั้น นั่นก็คือหากเกิดความเสียหายแก่รถของคู่กรณีคุณต้องจ่ายค่าเสียหายชดใช้ให้แก่คู่กรณีเองทั้งหมด พ.ร.บ.จะจ่ายให้แค่รักษาพยาบาลในกรณีบาดจ็บ หรือเสียชีวิตของคู่กรณีเท่านั้น

**การต่ออายุพ.ร.บ.ก็สามารถติดต่อได้กับทุกบริษัทประกันภัย และเป็นราคาเดียวกันทั่วประเทศตามขนาดและชนิดของรถยนต์

วงเงินคุ้มครองตาม พ.ร.บ.

สรุปแล้วว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันและผู้โดยสารท้ายกระบะจะไม่ได้รับการชดเชยจากกรมธรรมเนื่องจากความผิดตามข้อกฎหมายแล้วแต่ประกันภาคบังคับยังคงจ่ายค่าชดเชยให้ผู้เสียกายอยู่และถึงแม้ว่าประกันภาคบังคับนั้นจะคุ้มครองครอบคลุมไม่ว่ากรณีใด แต่การขับรถด้วยความไม่ประมาท และการเมาไม่ขับย่อมเป็นเรื่องสำคัญอยู่ดี Fairdee ขอให้เรื่องราวดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ และแสดงความเสียใจกับผู้ประสบอุบัติเหตุและครอบครัวและขอให้ได้รับความยุติธรรมและการเยียวยาอย่างดีที่สุด

ประกันภัยเป็นเรื่องสำคัญ ตอนต่อประกันรถเราอาจมองว่าเป็นเรื่องเสียเงินประจำปีแต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วทุกๆ ครั้งเรามักจะมีคำถามกันว่าประกันจ่ายเท่าไหร่?เพราะฉะนั้นเราควรทำประกันไว้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะเป็นการคุ้มครองทั้งตนเองและคู่กรณี

ให้ตัวแทน Fairdee ได้ดูแลคุณ ซื้อประกันกับตัวแทน Fairdee เลย นอกจากตัวแทนที่มีประสบการณ์ ยังมี 5 บริษัทชั้นนำที่เป็น Partnerกับเราเพื่อให้คุณได้ซื้อประกันรถยนต์ราคาดีที่สุด ซื้อเลย!!

Share :

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความรู้ประกันรถยนต์

เรื่องต้องรู้💡รับมืออย่างไร ในกรณีเกิดเหตุรถชน💥🚗

อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บางครั้งก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเราควรหาวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด จะมีวิธีรับมืออย่างไร ไปทราบพร้อม ๆ กันเลย จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุรถชนเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเวลา ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การที่เรารู้วิธีรับมือ เป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงจะได้ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป หรือ จะเลือกทำประกันภัยรถยนต์กับเเฟร์ดีก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัย ให้กับทั้งตัวคุณเองและคนที่คุณรักเช่นกัน สามารถดูรายละเอียดเเละความคุ้มครองของประกันในเเต่ละประเภทได้ที่นี่ คลิก พิเศษสุดสำหรับสมาชิก FairDee สมัครสมาชิกวันนี้ รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ!

อ่านต่อ
ความรู้ประกันรถยนต์

พ.ร.บ. รถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง? ฉบับ 2567

ลงทะเบียนเลย >> จังหวัดศรีสะเกษ, กระบี่, ลำปาง, สมุทรปราการ เตรียมพบกับ ผู้บริหาร บริษัท แฟร์ดี โบรกเกอร์ ประกันภัย จำกัด และแขกรับเชิญจากบริษัทประกันคู่ค้าของเรา ด่วน! 80 ที่นั่ง/จังหวัดเท่านั้น

อ่านต่อ
หน้าฝนมาแน่! วางแผนการเดินทางให้ปลอดภัยกับถนนทุกสาย
ความรู้ประกันรถยนต์

หน้าฝนมาแน่! วางแผนการเดินทางให้ปลอดภัยกับถนนทุกสาย #แฟร์ดีแคร์คุณ

ช่วงนี้ฝนตกหนักทุกวัน แต่ทุกคนก็ต้องเดินทางไปทำงาน หรือไปท่องเที่ยวหน้าฝนกันอยู่ โดยปีนี้จะมีฝนตกชุก ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ฉะนั้นเรามาเตรียมพร้อมการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนให้ปลอดภัยในทุกเส้นทางกันดีกว่า >>>

อ่านต่อ