FairDee เชื่อว่าที่ผ่านมา ตัวแทนหลายๆ คนที่น่าจะเคยได้ยินคำว่า “ทุนประกัน” กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ทั้งจากทางบริษัทประกัน หรือแม้แต่จากลูกค้า เราก็มักจะคุ้นหน้าคุ้นตากับคำๆนี้อยู่ไม่น้อย ซึ่งเจ้าทุนประกันนี้ถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญในการทำประกัน วันนี้ FairDee จะมาอธิบายว่าจริงๆ แล้ว เจ้าทุนประกันนี้คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อการคิดเบี้ย รวมไปถึงความคุ้มครองที่รถของลูกค้าเราจะได้รับค่ะ

“ทุนประกัน” คือมูลค่าความคุ้มครองที่บริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัยรถยนต์เพื่อซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยทุนประกันนี้จะมีผลกระทบกับค่าเบี้ยประกันและความคุ้มครอง ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าขอทุนไว้ 1,000,000 บาท พอเกิดเหตุขึ้นบริษัทจะรับผิดชอบที่วงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท ซึ่งเท่ากับว่ายิ่งทุนประกันสูง ความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย โดยหากลูกค้าเลือกเอาทุนประกันที่สูง ค่าเบี้ยที่จะต้องจ่ายก็จะมีราคาสูงตามไปด้วย 

ในแง่ของตัวแทนเวลาลูกค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับทุนประกัน อย่างเช่นว่าจะเอาทุนประกันมากหรือน้อยดี พี่ๆตัวแทนสามารถบอกกับลูกค้าได้เลยค่ะว่าลูกค้าควรจะต้องเลือกทุนประกันให้เหมาะสมกับความคุ้มครองที่ตัวเองต้องการจะได้รับในอนาคต เพราะหากลูกค้าขอทุนประกันเอาไว้เยอะแล้วไม่ได้ใช้ก็น่าเสียดาย แต่หากขอทุนประกันไว้น้อย ไม่ครอบคลุม ต้องไปเสียค่าซ่อมเพิ่มเองก็จะไม่คุ้มอีกเช่นกัน

มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าพี่ๆ ตัวแทนหลายๆ คนคงสงสัยว่าแล้วเราจะคำนวณทุนประกันออกมาได้ยังไง ซึ่ง FairDee ขอบอกเลยว่าทุนประกันจะถูกคำนวณออกมาจากราคากลางของรถยนต์ที่มาจากกรมการขนส่งทางบก (สามารถเช็คราคาได้ที่นี่) พิจารณาร่วมกับอายุรถ น้ำหนักรถ ลักษณะการใช้รถ ประเภทประกันภัยรถยนต์ โดยจะมีข้อกำหนดไว้ว่าการทำประกันภัยรถยนต์ห้ามต่ำกว่า 80% ของทุน

จากรูปข้างต้น ในกรณีที่รถยนต์ของลูกค้าราคา 700,000 บาท ทุนประกันก็จะเป็น 560,000 บาท ตัวแทนก็จะสามารถเอาทุนประกันเท่านี้เสนอลูกค้าได้เลย ทั้งนี้ราคาเบี้ยของแต่ละบริษัทที่ออกมาจะไม่เท่ากันค่ะ