ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร?
ทำไมกรมธรรม์ถึงต้องมีค่าเสียหายส่วนแรก? นายหน้ากับตัวแทนเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง? การเคลมมีกี่ประเภทและแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร?
FairDee เชื่อว่าคำถามข้างบนนี้ พี่ๆ ตัวแทนน่าจะเคยสงสัยกันมาบ้าง วันนี้ FairDee จะมาชวนพี่ๆ ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย
1.ทำไมกรมธรรม์ถึงต้องมีค่าเสียหายส่วนแรก?
FairDee ตอบ
จากข้อกำหนดสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยหรือที่รู้จักกันในชื่อของ คปภ. เรื่องรูปแบบและข้อความในกรมธรรม์มีการตั้งข้อกำหนดไว้ว่าบริษัทประกันจะขายประกันต่อประชาชนทั่วไปได้นั้น ข้อความบนกรมธรรม์ต้องเป็นไปตามแบบและข้อความที่ทาง คปภ. กำหนด
สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ ในเริ่มแรกมักจะมีการระบุตัวเลขความเสียหายต่อตัวรถไว้ที่ 2,000 บาท โดยเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จริง แต่ต่อมาเมื่อวงการประกันมีการแข่งขันการทำการตลาดมากขึ้น ก็ทำให้มีการอนุโลมไม่เก็บเงินส่วนนี้ในตอนเคลมจริง แต่ไม่ได้ขออนุญาตรูปแบบกรมธรรม์ใหม่ให้ถูกต้อง
สำหรับพี่ๆ ตัวแทนที่ต้องการทราบว่ากรมธรรม์ที่นำเสนอให้ลูกค้านั้นมีค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่ พี่ๆสามารถตรวจสอบกับบริษัทประกันว่าเลขกรมธรรม์ที่ได้รับ เมื่อเคลมจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่และหากจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก จะต้องเสียเป็นจำนวนเท่าไหร่ หรือจะตรวจสอบจากเบี้ยประกันในหน้าตารางกมธรรม์ที่ได้รับว่าเป็นเบี้ยประกันแบบเสียค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่ก็ได้ครับ
2.ตัวแทนกับนายหน้าต่างกันอย่างไร?
FairDee ตอบ
เราอาจได้ยินสองคำนี้ถูกใช้ด้วยกันบ่อยๆ จนหลายๆ จนอาจคิดว่าทั้งสองคำมีความหมายเดียวกัน แต่สำหรับธุรกิจประกันภัย ทั้งสองคำนี้มีความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
ตัวแทน (Agent) หมายถึง บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนบริษัทที่ตนสังกัดอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือพนักงานบริษัทประกันแห่งนั้น เวลาเขาเสนอขายประกัน เขาจะขายได้เฉพาะผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่สังกัดอยู่เท่านั้น จะไม่สามารถขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นๆ ได้ หากคุณซื้อประกันภัยรถยนต์จากบริษัทหนึ่งอยู่แล้ว และไม่ต้องการเปลี่ยนบริษัทก็สามารถติดต่อตัวแทนให้ทำเรื่องให้ได้เลยครับ
นายหน้า (Broker) หมายถึง ผู้ทำหน้าที่จัดหาช่องทางการทำประกันให้กับผู้เอาประกันภัย โดยนายหน้าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลก็ได้ ซึ่งนายหน้ามีอิสระในการแนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกันรถยนต์ใดก็ได้ ไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของบริษัทใดบริษัทหนึ่งครับ ดังนั้นหากคุณต้องการเปรียบเทียบตัวเลือกจากหลายๆ บริษัทก็สามารถติดต่อนายหน้า หรือโบรกเกอร์ประกันภัยได้นะครับ
3.ทำประกันชั้น 1 แบบระบุผู้ขับขี่แต่ตอนเกิดเหตุ ผู้ขับไม่ใช่คนที่ระบุไว้ จะสามารถเคลมได้ไหม?
FairDee ตอบ
หากคุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แบบระบุผู้ขับขี่ไว้ตั้งแต่ต้น แต่ตอนเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่เป็นคนอื่นที่ไม่ได้มีชื่อระบุในกรมธรรม์ และเป็นฝ่ายผิดตามกฎหมาย คุณสามารถเคลมประกันภัยชั้น 1 ที่ทำไว้ได้ แต่จะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ได้กำหนดเอาไว้ในกรมธรรม์ สำหรับความเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลภายนอก หรือคู่กรณี เช่น ค่าซ่อมรถคันคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสารในรถคันคู่กรณี ค่าเสียหายต่อทรัพย์สินอื่นๆ เป็นต้น และเงินอีกส่วนสำหรับความเสียหายของรถคันเอาประกันภัย กรณีต้องเอารถคันเอาประกันภัยเข้าซ่อม
เมื่อรวมกันแล้ว คุณอาจต้องเสียเงินมากกว่าที่คิดเอาไว้ ซึ่งอาจจะมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้จากส่วนลดเนื่องจากการระบุผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ ดังนั้น ถ้าไม่มั่นใจว่าใครจะเป็นผู้ขับรถของรถที่คันเอาประกัน ก็ไม่ควรทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ครับ
4.ประกันชั้น 1 อยากได้ทุนประกันสูงๆ แต่ทำไมบริษัทประกันไม่ให้ทำ?
FairDee ตอบ
ทุนประกันที่เหมาะสมคือประมาณ 80% ของราคารถ ณ ปัจจุบัน หรืออาจยืดหยุ่นได้ถึง 90% ของราคารถ แต่บริษัทประกันมักจะไม่รับทำทุนประกันเต็มจำนวน 100% เพราะสาเหตุดังต่อไปนี้
-เผื่อค่าเสื่อมสภาพของรถยนต์ระหว่างปี
-ต้องการให้ผู้เอาประกันมีความรับผิดชอบกับรถยนต์ของตนเองบ้างเป็นบางส่วน เพื่อจะได้ช่วยดูแลรักษารถตามสมควร
-เพื่อไม่ให้เป็นช่องในการหาผลประโยชน์จากการทำประกันโดยมิชอบ
วิธีคิดง่ายๆ คือหากบริษัทประกันให้ทุนประกันสูง หรือทุนประกันถึง 100% ก็อาจจะทำให้ผู้ขับขี่ ขับขี่โดยประมาทมากขึ้นเนื่องจากมีประกันภัยแล้ว คิดว่าไม่ว่ารถยนต์จะพังยับขนาดไหน ก็ยังมีความคุ้มครอง 100% แบบนี้หากชนเล็ก ชนน้อยทางบริษัทประกันภัยก็ต้องจ่ายค่าชดเชย ทำให้รวมๆ แล้วอาจจะเป็นเงินค่าชดเชยจำนวนมาก ทำให้ผู้เอาประกันอาจจะหาประโยชน์จากข้อกำหนดส่วนนี้ได้ ดังนั้นการให้ทุนประกันไม่ถึง 100% เหมือนเป็นการบังคับกลายๆ ให้ผู้เอาประกันใช้รถยนต์อย่างระมันระวัง และรับผิดชอบดูแลรักษารถยนต์ของตัวเองด้วยเช่นกัน
5.การเคลมแบ่งเป็นกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?
FairDee ตอบ
การเคลมประกันภัยรถยนต์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ การเคลมสด และการเคลมแห้ง
เคลมสด คือ เคลมที่ต้องมีพนักงาน หรือตัวแทนบริษัทประกันลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ ซึ่งก็คือเมื่อเกิดเหตุมีคู่กรณี มีผู้บาดเจ็บ หรือรถประกันหรือรถคู่กรณีเสียหายมาก ผู้ขับขี่รถหรือรถคู่กรณีจะได้รับเอกสาร เป็นใบหลักฐานในการติดต่อเคลมค่าเสียหายจากพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุ ซึ่งสามารถนำไปติดต่ออู่ในเครือของบริษัทประกันภัยเพื่อดำเนินการซ่อมแซมรถยนต์ได้ทันที
เคลมแห้ง คือ การเคลมที่พนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุไม่จำเป็นจะต้องออกไปตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ ได้แก่ กรณีที่รถยนต์คันเอาประกันเสียหายเล็กน้อย หรือกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี การเคลมประกันรถยนต์ประเภทนี้ ผู้ขับรถสามารถนำรถเข้าไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทได้ด้วยตนเองก่อนกรมธรรม์หมดอายุ
6.รถเสียหาย รอเคลม รอซ่อม สามารถทำประกันชั้น 1 ได้หรือไม่?
FairDee ตอบ
สำหรับประกันชั้น 1 รถยนต์ที่จะทำควรอยู่ในสภาพที่ซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนทำประกัน แต่หากเป็นความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยข่วน บริษัทประกันอาจรับทำประกันให้ได้ โดยจะมีการทำบันทึกความเสียหายที่พบไว้ในระบบ ซึ่งความเสียหายดังกล่าวจะไม่สามารถนำมาเคลมได้ เพราะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนทำประกันรถยนต์ เมื่อผู้เอาประกันนำรถเข้าซ่อม สามารถแจ้งให้บริษัทประกันไปถ่ายรูปรถยนต์ใหม่ เพื่อทำการยืนยัน และลบบันทึกความเสียหายที่ระบุเอาไว้ได้ แต่ถ้ารถมีความเสียหายมาก บริษัทประกันก็อาจจจะปฏิเสธการรับประกัน
7.ซ่อมห้างกับซ่อมอู่ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?
FairDee ตอบ
ซ่อมห้างคือการที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุต้องซ่อม เจ้าของรถยนต์นำรถยนต์ไปซ่อมแซมที่ศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ หรือ โดยอู่ที่ได้มาตรฐานคุณภาพเทียบเท่า ปกติแล้วประกันซ่อมห้างมีให้เลือกสำหรับรถใหม่อายุ 1-4 ปี อะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมเป็นอะไหล่แท้จากศูนย์บริการเท่านั้น แต่ข้อเสียของการซ่อมห้างคือ อาจจะต้องรอคิวซ่อมรถยนต์นานหน่อยครับ
ซ่อมอู่คือการเข้ารับการซ่อมแซมที่อู่ทั่วๆ ไปที่มีข้อตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้แล้ว ในกรณีที่เป็นรถยนต์ใหม่ที่มีอายุ 1-3 ปี บริษัทประกันภัยจะใช้อะไหล่ของแท้จากศูนย์ในการจัดซ่อม หากเป็นรถที่อายุมากแล้ว อะไหล่ที่ใช้อาจเป็นอะไหล่มือสอง หรืออะไหล่ที่เทียบเท่าของแท้นั่นเองครับ
8.รถเสียหาย ไม่มีคู่กรณีหรือคู่กรณีหลบหนี ไม่มีรายละเอียด จะต้องดำเนินการอย่างไร?
FairDee ตอบ
หากเหตุการณ์อย่างนี้ ผู้เอาประกันต้องรีบทำการแจ้งความกับสถานีตำรวจเพื่อเก็บบันทึกประจำวัน มีเอกสารให้ตรวจสอบ ติดตามและดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัย แต่หากยังไม่สามารถระบุได้ ทางผู้เอาประกันก็ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก และค่าซ่อมแซมตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
9.กรมธรรม์ประเภท 1 สามารถทำสีรอบคันได้หรือไม่?
FairDee ตอบ
กรมธรรม์ประกันรถยนต์ จะให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ดังนั้น ถ้าลูกค้าแจ้งซ่อมทำสีรอบคัน จะต้องมีการตรวจสอบความเสียหายเป็นหลักว่าเกิดจากอุบัติเหตุจริงหรือไม่ เชื่อถือได้หรือไม่
โดยถ้าเป็นการทำประกันปีแรกแล้วแจ้งซ่อม จะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายร่วมอย่างน้อย 50% ของค่าซ่อมทั้งหมด แต่ถ้าเป็นการทำประกันต่อเนื่องกับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ โดยทำติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ปกติจะมีการประนีประนอมในการร่วมรับผิดชอบความเสียหายระหว่างบริษัท และผู้เอาประกัน จะเป็นจำนวนเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับลักษณะความเสียหาย และประวัติการเคลมของผู้เอาประกันภัยครับ