1. มองดูคนรอบตัว
จุดแข็งที่สุดของการเป็นตัวแทนขายประกัน คือ “ความสัมพันธ์” ที่คุณมี เริ่มง่ายๆจากการสังเกตความเป็นไปได้รอบตัวก่อนว่าเรามีโอกาสเข้าถึงคนแบบไหน เช่น คนที่ทำงาน, กลุ่มเพื่อนเก่า หรือคนแถวบ้าน ลองดูว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีใครบ้างที่มีรถ ซึ่งประกันที่เราขายอาจจะเป็นข้อเสนอที่ดีกว่าสิ่งที่เค้าใช้อยู่ก็ได้ (ทั้งด้านราคา บริการ การคืนเงิน และโปรโมชั่น)
2. ประกาศตัว
คุณไม่จำเป็นต้องเข้าหาทุกคนเพื่อถามว่าสนใจซื้อประกันไหมให้ลำบากใจ แต่คุณต้องทำให้คนอื่นรู้ว่าคุณ “กำลังขายประกันรถอยู่” เพื่อให้คนรู้จักรอบตัวได้เกิดการจดจำได้ และถ้ามันอยู่ในช่วงเวลาที่ประกันใกล้หมด เขาจะนึกถึงและเข้าหาคุณเอง หรือแม้แต่บอกต่อคนรู้จักที่กำลังต้องต่อประกัน
โดยเฉพาะถ้าคุณให้ความรู้และสามารถแนะนำการเลือกซื้อที่ให้กับลูกค้าได้ประกันที่ราคาประหยัด แต่คุ้มครองได้ครอบคลุมเหมาะสมกับผู้ใช้ คุณก็จะยิ่งเป็นคนขายประกันที่น่าสนใจขึ้นอีก
** การประกาศตัวอย่างต่อเนื่องคือ ยิ่งเวลาผ่านไปนาน คนที่จำคุณได้จะยิ่งเยอะขึ้น คนที่ติดต่อเข้ามาแต่ละวันก็จะเยอะขึ้นไปด้วย
3. มองหาจุดแข็งอื่น
การขายคนรอบตัวเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่คุณยังไปได้ไกลกว่านี้ สังเกตจุดแข็งของคุณเพิ่มเติมที่ทำให้คุณเจอวิธีขายในแบบตัวเอง เช่นถ้าคุณทำงานประจำ และชอบคุย แน่นอนว่าคุณสามารถหาลูกค้ารายใหม่ๆได้ไม่ยาก ตั้งแต่เจ้านาย ลูกน้อง ไปจนถึงคนขายของที่โรงอาหาร
ถ้าคุณมีร้านขายของ หรือร้านกาแฟอยู่แล้ว อาจจะใช้การฝากหรือติดป้ายไว้ที่ร้าน ทำโปรโมชั่นการซื้อประกันร่วมกับร้านได้ ซึ่งการมีหน้าร้านก็เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าไปอีกขั้นด้วย ถ้าคุณไม่ค่อยได้เจอคน แต่ทำงานผ่านคอมอยู่บ่อยๆ การเริ่มขยันโพส Facebook (อย่างถูกวิธี) ก็จะช่วยคุณได้เช่นกัน
4. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ
เมื่อมีเทคนิคแล้ว ลองตั้งเป้าเป็นยอดขายเล็กๆ ให้ตัวเองเห็นว่าคุณทำได้ เช่น 3-5 การขายแรกภายใน 1 เดือน เริ่มที่ รถตัวเองและคนในครอบครัว ที่หากคุณจะต้องต่อประกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเมื่อหักจากค่าตอบแทนตัวเอง คุณจะได้ประกันที่ราคาถูกที่สุด และคุ้มครองได้ตรงใจที่สุด แถมเป็นการเรียนรู้ขั้นตอนทำงานที่ครบวงจรไปในตัว ก่อนจะเริ่มขายให้คนอื่นๆได้คล่องขึ้นในครั้งต่อไป และอย่าลืมว่ามีทีมงาน พร้อมคอยช่วยเหลือการขายของคุณอยู่ตรงนี้นะครับ 🙂
เพราะ #FairDeeเราแฟร์และแคร์คุณ
พิเศษเฉพาะตัวแทน ที่รีบลงทะเบียนเป็นตัวแทนแฟร์ดีเข้ามา รับโปรโมชั่นพิเศษ